ผู้ก่อวิกฤตร้ายแรง ถวายฎีกา"ทักษิณคือปัญหาแผ่นดิน"
"เปรม"ให้หน.สนง.รับแทน กว่า5หมื่นร่วมชุมนุมพระรูป
ร่วมขับไล่ - ผู้ชุมนุมจากกลุ่มต่างๆ และประชาชนหลากหลายสาขาอาชีพจำนวนมากนั่งเต็มลานพระบรมรูปทรงม้าระหว่างฟังการปราศรัยของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำชุมนุมกู้ชาติวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เพื่อยื่นฎีกาถวายในหลวงและขับไล่กดดันให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ม็อบกว่า 5 หมื่นร่วม "สนธิ" แน่นลานพระบรมรูปทรงม้า ยื่นฎีกาถวายในหลวงระบุนายกฯคือปัญหาของแผ่นดิน เป็นผู้ก่อปัญวิกฤตร้ายแรงของชาติ "ป๋าเปรม"ให้"พล.ร.ท."หน.สำนักงานประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษรับแทน เตรียมตั้งคณะกก.ภารกิจกู้ชาติและปฏิรูปการเมืองสู้ต่อ
**ม็อบ5หมื่นฟัง"สนธิ"ขับไล่"ทักษิณ"
การชุมนุมกู้ชาติวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ซึ่งนำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการและผู้จัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ในการยื่นถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านทาง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งเริ่มตั้งแต่เวลา 08.00 น. มีกลุ่มหนุนนายสนธิทยอยมารวตัวมากขึ้นเรื่อยๆ มีการปราศรัยของบรรดาแกนนำขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ สลับกับการแสดงดนตรีของวง "คาราวาน" และลำตัด บนเวทีที่จัดขึ้นด้านหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม จนกระทั่งเวลา 16.50 น. นายสนธิ จึงเดินทางมาที่บริเวณพระบรมรูปทรงม้า และเตรียมขึ้นปราศรัยบนเวที โดยมีการ์ดรักษาความปลอดภัยล้อมมาประมาณ 7 คน นอกจากนั้นทีมงานของนายสนธิ ได้ถือธงรูปหนุมานอาสา จตุคามรามเทพ เดินชูนำหน้าตลอดเวลา ก่อนที่จะนำธงรูปหนุมานอาสาขึ้นไปวางบนเวทีเพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู ้อธรรม ท่ามกลางประชาชนที่รอฟังเพิ่มขึ้นประมาณ 50,000 คน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก รวมทั้งบรรดานักการเมืองหลายคน อาทิ นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว.กทม. น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ส.ส.อุดรธานี นายการุณ ใสงาม ส.ว.บุรีรัมย์ นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ หัวหน้าพรรคพลังธรรม นายชิงชัย มงคงธรรม หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ ฯลฯ
**"สนธิ"โวยถูกแกล้งสกัดม็อบเข้ากรุง
ด้านนายสนธิให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นเวทีว่า จุดประสงค์ของการชุมนุมวันนี้ก็เพื่อแสดงเจตนารมณ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีความชอบธรรม แต่เป็นการแสดงออกโดยสันติ ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ชุมนุมกันอย่างสันติ ไม่ปรารถนาที่จะใช้ความรุนแรง เป็นการแสดงพลัง แสดงความคิดเห็น เพราะที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณไม่เคยเปิดโอกาสให้ประชาชานได้แสดงความคิดเห็นเลย สถานทีโทรทัศน์ วิทยุ วันนี้ที่มาชุมนุมกันเพราะไม่เห้นด้วยกับวิธีการปกครองของ พ.ต.ท.ทักษิณ
น ายสนธิกล่าวด้วยว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณยังด้านอ้างเรื่อง 19 ล้านเสียง ก็เป็นเรื่องของเขา วันนี้ถ้าไม่แกล้งประชาชน สกัดกั้นประชาชนด้วยวิธีการต่างๆ นานา อย่างน้อยจะเข้ามาชุมนุมครึ่งกรุงเทพฯ ไปซื้อตั๋วรถไฟก็บอกไม่มีตั๋ว หาก พ.ต.ท.ทักษิณรักประชาธิปไตยจริง ก็ต้องให้ประชาชนแสดงออก เพราะ 19 ล้านเสียง ก็มีอยู่ในการชุมนุม และตนก็เป็น 1 ใน 19 ล้านเสียง ที่เลือกพรรคไทยรักไทย
**ตั้งทีมภารกิจกู้ชาติ-ปฏิรูปการเมือง
รายงานข่าวจากแกนนำการชุมนุมส่วนหนึ่งเปิดเผยว่า ก่อนหน้าจะเดินทางมาที่เวทีอภิปราย กลุ่มนายสนธิ และนักวิชาการส่วนหนึ่งได้หารือกัน อาทิ นายชิงชัย มงคลธรรม นายสมเกียรติ นายเอนก และองค์กรภาคประชาชน รวมทั้งองค์กรประชาธิปไตย จะรวมตัวกันจัดตั้งเป็นองค์กรเพื่อเคลื่อนไหวขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยใช้ชื่อ คณะกรรมการ "ภารกิจกู้ชาติและปฏิรูปการเมือง" มีกรรมการประมาณ 7-8 คน เพื่อทำหน้าที่อภิปรายเปิดโปงความไม่ชอบธรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ โดยคงในรูปแบบของรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ เพียงแต่ว่าการขึ้นพูดหรืออภิปรายบนเวทีไม่ใช่แค่นายสนธิเท่านั้น แต่จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นไปจัดรายการ ซึ่งมีทั้งนักวิชาการ อาจารย์จากสถาบันต่างๆ ตัวแทนจากองค์กรครู และกลุ่มเกษตรกร
"องค์ก รพันธมิตรในรูปแบบคณะกรรมการเพื่อขับไล่ทักษิณ จะมีการประกาศรายชื่อกรรมการทั้ง 7-8 คน ในวันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์" รายงานข่าวกล่าว
**ม็อบปารูปล้อเลียน"นายกฯ-รมต."
สำหรับความ เคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ก่อนหน้านี้ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่กลางดึกของคืนวันที่ 3 กุมภาพันธ์ โดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล เจ้าของรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ สลับกับทีมงาน เปิดอภิปรายเรียกน้ำย่อย และหยุดพักเป็นระยะๆ โดยมีผู้สนใจเข้าฟังประมาณ 500 คน ซึ่งการอภิปรายดังกล่าวดำเนินไปจนถึงเช้าแล้วหยุดพัก 2 ชั่วโมง ก่อนจะมาเริ่มต้นใหม่ในเวลา 08.00 น. ขณะที่บรรยากาศรอบข้างได้มีการตั้งเต๊นท์ และนำเกมต่างๆ เช่น นำภาพการ์ตูนเป็นรูปหน้าของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี มาติดตามเสาแล้วให้ประชาชนเอาลูกเทนนิสขว้างใส่ หรือนำภาพมาให้คนเหยียบ
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มแม่ชีมาร่วมนั่งสมาธิประมาณ 30 คน และพระสงฆ์ร้อยเอ็ด เดินทางมาร่วมชุมนุม โดยมีประชาชนบางส่วนรวมกลุ่มนั่งเรียงรายตามฟุตปาธ และประกาศอดอาหารประท้วงรัฐบาล
**แกนนำครูยื่นหนังสือให้ย้ายผบช.ภ.4
เวลา 11.00 น. นายอวยชัย วะทา แกนนำเครื่องข่ายคัดค้านการโอนสถานศึกษาไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมข้าราชการครูจำนวน 50 คน เดินทางไปยื่นหนังสือต่อ พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น. เพื่อให้เรียกร้องให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. ลาออก รวมทั้งให้มีการย้าย พล.ต.ท.สถาพร ดวงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจภาค 4 เนื่องจากมีพฤติกรรมข่มขู่สิทธิเสรีภาพของกลุ่มครูภาคอีสาน จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา
ส่วนบนเวที มีกลุ่มศิลปินเพื่อชีวิต นำโดยนายวสันต์ สิทธิเขต ขึ้นไปอ่านกลอนและสลับกับการร้องเพลง รวมทั้งบอกว่า การชุมนุมวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เป็นวันเดียวกับชาวบ้านบางระจันช่วยกันต่อสู้จนได้รับชัยชนะ ขณะเดียวกัน ได้มีการตั้งโต๊ะให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมลงชื่อ แบ่งเป็น 2 โต๊ะ คือโต๊ะลงชื่อถวายสัตย์ปฏิญาณร่วมต่อสู้เพื่อให้มีการถวายคืนพระราชอำนาจ และโต๊ะลงชื่อร่วมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ลาออก
**ตำรวจเพิ่มกำลังเป็น5พันป้องกันเหตุ
เวลา 14.00 น. ผู้คนยังทยอยมาร่วมชุมนุมเพิ่มเป็น 5,000 คน แต่ยังอยู่ในความสงบ โดยทางผู้ประสานการชุมนุมมีการปั๊มตราบนข้อมือของผู้เข้าไปในบริเวณชุมนุมเพ ื่อป้องกันคนแปลกปลอมเข้าไปก่อกวนสถานการณ์
เวลา 15.00 น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดกั้นถนนบริเวณทางเข้าด้านหน้าพระบรมรูป ด้านถนนอู่ทอง และด้านถนนศรีอยุธยา ไม่ให้รถเข้า เพื่อตรวจค้นทุกคนที่มาร่วมชุมนุม
เวลา 16.00 น. ดนตรีหงา คาราวาน เริ่มเปิดการแสดงบนเวที สร้างความคึกคักให้กับผู้มาชุมนุม ขณะที่จำนวนผู้ที่มาร่วมชุมนุมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็น 30,000 คน
**รัฐบาลเปิดทำเนียบตั้งทีมแก้เกมม็อบ
เวลา 17.00 น. จำนวนผู้มาร่วมชุมนุมเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่ามีประมาณ 50,000 คน
ขณะเดียวกันนายสนธิ เดินทางมาถึงบริเวณด้านหลังเวทีอภิปราย มีชุดคุ้มกันประมาณ 20 คน นอกจากนั้นมีนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายวีระ สมความคิด เดินทางมาพร้อมกัน เมื่อผู้ชุมนุมรู้ว่านายสนธิเดินทางมาถึงทำให้ผู้คนที่มาร่วมชุมนุมยิ่งเดิน ทางเข้ามาสมทบมากขึ้น จนกระทั่งเวลา 19.00 น. นายสนธิได้ขึ้นเวทีและปราศรัย
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของฝ่ายรัฐบาล พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงตั้งแต่เวลา 10.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล และในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมติดตามสถานการณ์การชุมนุมที่ทำเนียบอย่างใกล้ชิด
**"บิ๊กจิ๋ว"ให้ทุกฝ่ายยึดพระราชดำรัสในหลวง
ก่อนหน้านี้วันเดียวกัน เวลา 11.00 น. พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งได้รับการแต่งตั้งจาก พ.ต.ท.ทักษิณให้เป็นผู้อำนวยการศูนย์ต่อสู้และเอาชนะความยากจน เปิดบ้านปิ่นประชาคม นนทบุรี ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมกู้ชาติของนายสนธิว่าความคิดเห็นส่วนตัวเห็นว่า ที่ว่าบ้านเมืองอ่อนแอ ไม่ใช่อ่อนแอเพราะกำลังทหารไม่ดีพอ หรือเศรษฐกิจ แต่เป็นเพราะคนในชาติขาดความสามัคคี รวมถึงมีผู้ที่เลือกวิถีทางที่จะสร้างความตระหนกขึ้นในสังคม จึงต้องการให้ทุกฝ่ายแสวงหาสันติ หันหน้ามาคุยกัน และคำถามว่าใครถูก ใครผิด คงไม่ใช่คำถามสำหรับเวลานี้ จึงขอให้ทุกฝ่ายยึดพระราชดำรัส
"สิ่งที่อยากจะฝากอีกประการคือ อยากให้ผู้ที่มีสติปัญญา เป็นผู้นำความคิดในบ้านเมือง มานั่งหารือ ช่วยกันคิดหาทางออกให้บ้านเมือง โดยเฉพาะหลายคนที่เคยทำงานให้บ้านเมืองมายาวนาน เพราะปัญหาของบ้านเมืองเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วเกิดขึ้นอีก อยากให้ทุกคนช่วยกันหาคำตอบว่า ปัญหาเกิดจากอะไร" พล.อ.ชวลิตกล่าว
**วอนทุกฝ่ายอย่าสร้างปัญหาเพิ่ม
"วันนี้ ทุกคนโยนความผิดว่า รัฐธรรมนูญไม่ดี แต่ลืมนึกถึงว่าปัญหาชาติคืออะไร หลายฝ่ายให้ความสำคัญกับปัญหาบุคคล ปัญหาของรัฐธรรมนูญ หากคิดกันอย่างนี้ เกรงว่าจะเสียเวลา จึงขอฝากว่าทุกอย่างมีกฎเกณฑ์กติกา ระหว่างที่บ้านเมืองมีปัญหา หากเราไปสร้างปัญหาเพิ่มถือว่าไม่ถูก" พล.อ.ชวลิตกล่าว และว่า เชื่อว่าหลายคนที่ออกมาชุมนุม ไม่ได้เกลียด พ.ต.ท.ทักษิณ แต่อาจจะรู้สึกว่า มีคำพูดที่ขัดหู ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่ตรงไปตรงมา หากรู้เรื่องลึกๆ ของความขัดแย้ง จะทราบว่ามีที่มาจากเรื่องเล็กๆ
**ขอ"เปรม"ช่วยยุติความขัดแย้ง2ฝ่าย
เมื่อถามว่าสถานการณ์ขณะนี้ ใครที่เหมาะสมจะมาเป็นตัวกลาง พล.อ.ชวลิตเห็นว่า ควรเป็นบุคคลที่เป็นผู้ใหญ่พอ และทั้ง 2 ฝ่าย จะต้องเห็นด้วย และว่าวันนี้ มีความพยายามที่จะเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าจะต้องคิดให้ดี เพราะจะทำให้ พล.อ.เปรมไม่สบายใจ เพราะภาพลักษณ์ของ พล.อ.เปรม เป็นภาพลักษณ์ของสถาบันที่เราต้องเคารพ จึงต้องตระหนัก และคิดให้ดี
"ถ้าพล.อ.เปรมจะกรุณาเป็นคนกลางในการเจรจาคงทำได้ ผมคิดว่าท่านกำลังคิดอยู่ อย่างไรก็ขอให้ยึดพระราชดำรัสเป็นที่ตั้ง ถ้าทุกคนยึดพระราชดำรัส วันนี้ ปัญหาจบ" พล.อ.ชวลิตกล่าว และว่า หากคิดจะแก้ปัญหาชาติ ผมฝากให้ถามตัวเองว่า วิถีทางที่ทำ แก้ปัญหาชาติได้แน่หรือไม่ แต่ส่วนตัวคิดว่าไม่ใช่
**ป๋าเปรมติดงานค่ำสั่งทส.รับฎีกาสนธิ
ส่วนความเคลื่อนไหวของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้สั่งการ ให้ พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป หัวหน้าสำนักงานประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ รอรับฎีกาของนายสนธิ ที่บ้านพักรับรองสี่เสาเทเวศร์ โดย พล.อ.เปรม มีกำหนดการในช่วงเย็นจนถึงช่วงค่ำ เดินทางไปเปิดงานที่หอศิลป์ ธนาคารกรุงเทพฯ ถนนผ่านฟ้าแล้ว ได้ไปร่วมงานศพ ก่อนจะเดินทางไปต่อที่โรงแรมโอเรียลเต็ล เพื่อร่วมรับประทานอาหารกับนายชาตรี โสภณพานิช และผู้ร่วมงานนิทรรศการ "ศิลปกรรมสายสัมพันธ์ 3 วัย"
**ดับข่าวลือไปโคราช-แต่งดสัมภาษณ์
อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงบ่ายมีการนำเสนอข่าวทางสถานีโทรทัศน์ว่า พล.อ.เปรม ได้เดินทางออกจากกรุงเทพฯ เพื่อไปปฏิบัติภารกิจที่ จ.นครราชสีมา แต่เมื่อเวลา 16.15 น. พล.อ.เปรมในฐานะประธานมูลนิธิหอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินี นาถ ได้เดินทางไปที่หอศิลป์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ บริเวณอาคารสำนักงานธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนผ่านฟ้า เพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการ "ศิลปกรรมสายสัมพันธ์ 3 วัย" โดยมี นายชาตรี โสภณพานิช ประธานกรรมการธนาคารกรุงเทพ ให้การต้อนรับ ขณะที่เดินชมนิทรรศการบริเวณชั้น 3 ได้ทักทายผู้สื่อข่าวพร้อมถามขึ้นมาว่า "เมื่อเช้าเห็นทีวีช่อง 5 หรือช่องไหนไม่ทราบบอกว่าอยู่โคราช" ผู้สื่อข่าวถามว่า มองหรือไม่ว่าทำไมทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์อะไรต้องบอกว่าไปอยู่โคราช
พล.อ.เปรมกล่าวว่า "เออ ทำไมต้องบอกป๋าอยู่โคราช ช่วยเอาไปออกข่าวด้วยนะว่าเราอยู่งานที่นี่" ผู้สื่อข่าวสอบถามความเห็นเกี่ยวกับการชุมนุมครั้งนี้ พล.อ.เปรม กล่าวว่า "วันนี้ไม่ได้เอาปากมาด้วย"
**"ชวน"ยันปชป.ไม่มีนโยบายขนม็อบ
ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณระบุพรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลังม็อบลานพระรูปทรงม้าโดยขนคน จังหวัดละ 25 คันรถ ว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีนโยบายขนคนมาร่วมการชุมนุม แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคบอกไว้ว่าหากใครต้องการมาร่วมชุมนุมถือว่าเป็นสิทธิ แต่หากมีคนจากภาคใต้มาร่วมการชุมนุมก็ต้องมีคนที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์อ ยู่แล้ว เพราะ ส.ส.ภาคใต้ส่วนใหญ่มาจากพรรคประชาธิปัตย์
**กรีด"แม้ว"อย่ากลัวเกินเหตุไม่ใช่ปฏิวัติ
"ผมไม่เข้าใจว่าทำไมนายกฯจึงกลัวเกินเหตุ เพราะคนที่มาร่วมชุมนุมไม่ได้มาปฏิวัติหรือก่อเหตุการณ์ร้าย จึงไม่ทราบว่านายกฯกลัวว่าคนมามากหรือกลัวคนฟังในสิ่งที่คุณสนธิพูด ซึ่งรัฐบาลทุกชุดก็ไม่อยากให้เกิดการชุมนุมขึ้น แต่เมื่อมีการชุมนุมเกิดขึ้นรัฐบาลชุดก่อนๆ ก็ไม่ได้กลัวขนาดนี้ เพียงแต่ดูแลไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น แต่ก็ยอมรับว่าก็ไม่ได้เป็นการชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาลอย่างการชุมนุมครั้งน ี้" นายชวนกล่าว
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เหตุการณ์ในวันนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่วิกฤตของนายกฯ ผมขอเรียกร้องให้นายกฯใช้สติ และวิจารณาญาณของผู้นำประเทศในการรักษาความสงบเรียบร้อยในการที่จะดูแลการชุ มนุมครั้งนี้ และที่สำคัญไม่ควรใช้อำนาจรัฐในการสั่งการเจ้าหน้าที่หรือคนของรัฐบาลอย่าให ้เกิดการยั่วยุทำให้เกิดปัญหา เพื่อให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความสงบ
**"จาตุรนต์"ห่วงจนท.ใช้อำนาจระมัดระวัง
ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่มีครู อาจารย์ นักศึกษาเข้ามาร่วมชุมนุมกับกลุ่มนายสนธิ ที่ลานพระบรมรูปทรงม้าว่าการชุมนุมครั้งนี้คงต้องภาวนาและตั้งความหวังว่าทุ กฝ่ายจะใช้เหตุผลและสติปัญญาและใช้แนวทางแบบสันติวิธี ยอมรับว่าการออกมาเคลื่อนไหวเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ที่รักษากฎหมายก็ควรใช้อำนาจอย่างระมัดระวัง ไม่ควรใช้กำลังแบบเกินเหตุเพราะเกรงว่าอาจจะเกิดเหตุบานปลายได้
**ผู้ว่าฯกทม.ยันช่วยตามรธน.ไม่เกี่ยวพรรค
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ได้ประสานงานกับ บชน. ในเรื่องการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ไปร่วมชุมนุม โดย กทม.ได้เตรียมรถสุขาให้ 5 คัน เพิ่มถังขยะ และเจ้าหน้าที่ดูแลความสะอาด อย่างเต็มที่ในส่วนของอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นอื่นๆ หากมีการร้องขอมาก็จะดำเนินการให้ ซึ่งไม่ได้ถือเป็นการเอื้ออำนวยแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญและตามระบอบประชาธิปไตยที่มีสิทธิทำได้ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับพรรคแต่อย่างใด ทำหน้าที่ในฐานะผู้ว่าฯกทม.เท่านั้น
**"สนธิ"เคาะระฆังเอาฤกษ์ฟ้อง"ในหลวง"
ต่อมาเวลา 19.00 น. นายสนธิ และ น.ส.สโรชา พรอุดมศักดิ์ พิธีกรรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ได้ขึ้นบนเวทีจุดธูปเทียนสักการะพระพุทธรูป จากนั้นนายสนธิได้เคาะระฆัง พร้อมกล่าวว่า เป็นระฆังที่ได้จากวัดชนะสงคราม อายุกว่า 100 ปี ในอดีตการเคาะระฆังของประชาชน เนื่องจากต้องการฟ้องพระเจ้าแผ่นดินว่ามีเรื่องเดือดร้อน ดังนั้น ที่ตีระฆังก็เพื่อฟ้องพระเจ้าแผ่นดินว่าความชั่วร้ายของนายกรัฐมนตรี ที่ชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลุ่มผู้ชุมนุมที่มาวันนี้ไม่ได้มาแค่ 1,500 คน อย่างที่สถานีโทรทัศน์ อสมท รายงาน
นายสนธิกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเป็นคนปากกล้า ขาสั่นเพราะมีการไปเตรียมเครื่องบินพร้อมอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ การที่ประชาชนจะไล่ จะต้องทำเป็นระบบ เพราะนายกฯชอบเมกะโปรเจ็คต์ ประชาชนคงต้องไล่แบบเมกะไล่ และการที่ พ.ต.ท.ทักษิณจาบจ้วงพระมหากษัติย์ ไม่รู้จักตัวเอง พูดได้อย่างไรว่าหากจะลาออกขอให้พระเจ้าอยู่หัวมากระซิบข้างหู อยากถามว่าทหารอยู่ที่ไหน สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดสามารถจับไปยิงเป้าได้เลย
นายสนธิกล่าวต่อว่า ตนจะสู้ในวันนี้จนถึงวันพรุ่งนี้หรืออาจจะต่อไป วันนี้สังคมถูกปิดปาก พ.ต.ท.ทักษิณคิดว่าประชาชนคนไทยโง่ รัฐบาลชุดนี้พยายามบอกว่าเศรษฐกิจดี แต่ก่อนเข้ามาประชาชนมีหนี้สินครัวเรือน 80,000 บาท ปลายปี 2548 หนี้เพิ่มเป็น 140,000 บาท ขณะที่บริษัทของเขามีมูลค่าในตลาดหลักทรัพย์ถึง 20,000 ล้านบาท ประชาชนเป็นหนี้สูงขึ้น แต่บริษัทชินฯกลับได้กำไรเพิ่มมากขึ้นถึง 400,000 ล้านบาท แล้วเศรษฐกิจจะดีได้อย่างไร เพราะกระจุกแค่คน 4-5 คน นักธุรกิจที่เข้าทำเนียบ ที่ให้กำลังใจก็มีอย่าง คนในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ได้ธุรกิจด้านการเกษตรหลายโครงการ รวมทั้งนายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ที่รับงานรัฐบาลเอาหุ้นมาเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งในรอบ 5 ปี พ.ต.ท.ทักษิณบริหารประเทศ หุ้นขึ้นจาก 20,000 ล้านบาท เป็น 400,000 ล้านบาท เพื่อจะขายในส่วนของครอบครัวชินวัตรให้ได้ 73,000 ล้านบาท
**ลั่นไม่เคยเห็นการเมืองไทยต่ำช้า
นายสนธิกล่าวด้วยว่า ได้ปวารณาตัวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าขอตายหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ 1 วัน เพื่อที่จะเดินไปถามว่า บาทเดียวตายไปจะเอาไปได้หรือไม่ วันนี้คนไทยต้องการกู้ชาติ ต้องการให้ประเทศไทยเป็นของคนไทย ไม่ใช่ของชินวัตร ดามาพงศ์ หรือวงศ์สวัสดิ์ ตนไม่เคยเห็นการเมืองไทยต่ำช้าขนาดนี้
"วิธีโกงชาติ บ้านเมืองมีหลายวิธี ยุคนี้เป็นโจรใส่เสื้อนอก ปล้นคนไทยเป็นระบบ พอเราตกเหว เขาขึ้นสวรรค์ ยุคทักษิโณมิกส์ ทำได้แต่การปั่นประเทศ ไม่ได้เดินตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมขอกล่าวสัจจะวาจาวันนี้ต่อหน้ารัชกาลที่ 5 ว่าผมจะไม่รับตำแหน่งใดๆ ไม่ลง ส.ส. ส.ว. ขอแค่เป็นยามรักษาแผ่นดิน แต่มีข้อแม้ว่า ถ้ามีการยึดทรัพย์ จะขอเป็นหนึ่งในคณะกรรมการยึดทรัพย์" นายสนธิกล่าว และว่า คนที่มาวันนี้เป็น ครู ลูกจ้าง เถ้าแก่ กว่าจะหาเงินได้ ต้องประหยัด แต่บางตระกูล มีทรัพย์สินเพิ่มเป็นหมื่นล้าน จะมีไม่มากได้อย่างไร ถ้าไม่โกง แต่ก่อนเรียกว่า โคตรโกง แต่ตอนนี้ต้องเรียกว่าโกงกันทั้งโคตร
**ยื่นฎีกา2ทางบ้านสี่เสา-ราชเลขาฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายสนธิกำลังปราศรัยอยู่นั้น ได้มีชายคนหนึ่งชูป้ายสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ จนทำให้นายสนธิกล่าวผ่านไมโครโฟนว่า "คุณจะมาชูป้าย ก็มาชูข้างหน้า อย่าไปบังเขา" จากนั้นประชาชนก็ลุกฮือขึ้นมา จนนายสนธิต้องบอกว่า "เห็นใจเขา เขารับเงินมา" ก่อนจะให้ตำรวจกันตัวชายคนดังกล่าวออกไป
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า เนื้อหาของการปราศรัยของนายสนธิ ส่วนใหญ่เป็นการกล่าวโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว รวมถึงรัฐมนตรีบางคน "วันนี้ 4 กุมภาพันธ์ ในประวัติศาสตร์ เป็นวันที่วีรชนบางระจันในยุคนั้นพม่าบุกกรุงศรีอยุธยา กวาดต้อนคนไทยไปเป็นทาส มายุคนี้เราต้องต่อสู้กับคนขายชาติ ที่เปิดประตูให้สิงคโปร์เข้ามาซื้อประเทศไทย ต่อไปใครที่มีเงิน 4-5 หมื่นล้านบาท ก็ซื้อประเทศได้ เพราะอ้างความชอบธรรม 19 ล้านเสียง ถ้ารัฐบาลคิดว่ามีเงิน 3,000 บาท จ่ายให้คน 19 ล้านคน เป็นเงิน 38,000 ล้านบาท แล้วเข้ามาปกครองประเทศแล้วขายประเทศ อย่างนี้ใช้ไม่ได้"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนธิใช้เวลาในการปราศรัยนานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง ก่อนจะระดมแกนนำแยกออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่ง เดินทางไปกับนายสนธิ ยังบ้านสี่เสาเทเวศร์ เพื่อยื่นถวายฎีกา ผ่าน พล.อ.เปรม อีกส่วนหนึ่งแยกเดินทางไปกับ น.ส.สโรชา เพื่อเดินทางไปยังสำนักราชเลขาธิการ พระบรมมหาราชวัง โดยมีการเคลื่อนขบวนในเวลา 20.50 น. ผู้ชุมนุมกว่า 1,000 คน ตั้งแถวเดินถือธงเหลือง พร้อมกล่าวตะโกนคำว่าออกไป ออกไป ลั่นท้องถนน
**ฎีการะบุนายกฯก่อปัญหาวิกฤตร้ายแรง
จากนั้นนายสนธินำคณะได้เดินทางนำหนังสือที่จะถวายฎีกาในหลวงไปยื่นผ่าน พล.อ.เปรมที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ โดยได้รับอนุญาตให้เข้าไปเพียงลำพังคนเดียวซึ่งมี พล.ร.ท.พะจุณณ์ หัวหน้าสำนักงานประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นผู้รับหนังสือแทน ขณะที่ น.ส.สโรชา ไปยื่นที่สำนักราชเลขาธิการ พระบรมมหาราชวัง โดยในหนังสือฎีการะบุตอนหนึ่งว่า "...นายกรัฐมนตรีท่านนี้คือปัญหาของแผ่นดิน เป็นผู้ก่อปัญหาวิกฤตร้ายแรงของชาติอย่างน่าวิตกและสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง หากปล่อยให้บริหารบ้านเมืองอยู่อีกต่อไป ก็มีแต่จะก่อความเสียหายแก่ประเทศชาติอย่างสุดที่จะประมาณได้ ประชาชนผู้รักชาติบ้านเมืองที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำอันมิชอบก็จะถูกกดขี่ ข่มเหง รังแก ปองร้าย และย่ำยีบีฑาไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยความอาฆาตมาดร้าย ดังที่ได้กระทำกับประชาชนและบุคคลต่างๆ มาแล้วครั้งแล้วครั้งเล่า.."
**ม็อบบางส่วนไม่กลับรอฟังสนธิต่อ
ต่อมาเวลา 20.30 น. นายสนธิพูดจบประชาชนบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางออกจากบริเวณชุมนุม แต่ส่วนใหญ่ยังคงนั่งรอฟังการอภิปรายจากคนอื่นๆ ต่อไป อย่างไรก็ตาม ผู้ชุมนุมยังคงนั่งรอฟังปราศรัย เพราะนายสนธิบอกว่าจะขึ้นเวทีพูดอีกหลายรอบ อีกทั้งโฆษกบนเวทีบอกว่าอย่าเพิ่งไปไหน เดี๋ยวนายสนธิจะกลับมาและอยู่สู้ร่วมกันจนกว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะออกไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงพักการปราศรัยนี้ ผู้ชุมนุมจำนวนมากลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ และเปลี่ยนอิริยาบถ ทำให้แถวของผู้รอเข้าห้องน้ำยาวเหยียด โดยเฉพาะรถสุขาที่เป็นห้องน้ำหญิงมีไม่พอกับจำนวนคนใช้บริการ เพราะมีเพียง 6 คันเท่านั้น ขณะที่คนไปรอมีเป็นร้อยๆ คน
เวลา 21.00 น. หลวงปู่พุทธอิสระ ขึ้นเวทีปาฐกถาธรรม สลับกับการอภิปรายของคนอื่นๆ เพื่อช่วยให้จิตใจของคนร่วมชุมนุมผ่อนคลายลง
**"แม้ว"ด่าอีก"กุ๊ย"คุมม็อบ
ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ เวลา 20.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางไปร่วมงานเลี้ยง "ปิ๊กมงฟอร์ตบ้านเฮา" ที่โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จากนั้นได้ขึ้นกล่าวบนเวทีเป็นภาษาคำเมือง ท่ามกลางศิษย์เก่าโรงเรียนมงฟอร์ตกว่า 500 คน ว่า "สิ่งที่ผมได้จากมงฟอร์ตคือ ทำให้ไม่เป็นคนโง่ เพราะมงฟอร์ตสอนให้รู้จักวิเคราะห์เป็น และมีจินตนาการ สอนให้เคารพกติกาสังคม แต่คนที่อยู่ที่ลานพระรูป คือคนที่ไม่เคารพกติกาสังคม หากสังคมใดปล่อยให้กุ๊ยนำคน และไม่เคารพกติกา สังคมก็อยู่ไม่ได้ ภายใต้การนำของผม จะไม่ยอมให้สิ่งที่ไม่ถูกต้อง"
"คนลองมาเป็นนายกฯ แล้วจะทำไม่ดี ก็มีแต่คนโง่เท่านั้นที่คิดแบบนี้ คนเป็นนายกฯคิดแต่เรื่องดีๆ ปล่อยให้พวกรู้น้อย พูดมาก มันน่ารำคาญ จึงต้องพูดให้รู้แล้วรู้รอดไป เกิดเป็นคนไทยต้องมีวินัยต่อประเทศ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณใช้เวลาอยู่ที่โรงเรียนมงฟอร์ตประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับไปพักที่บ้านพักส่วนตัว หมู่บ้านกรีนย์วัลเล่ย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
หน้า 1
หนังสือพิมพ์มติชน : หนังสือพิมพ์คุณภาพ เพื่อคุณภาพของประเทศ